กำลังโหลด...

ประกาศความเป็นส่วนตัว ภายนอกองค์กร สำหรับคู่ค้าหรือบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง

บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลและเคารพถึงสิทธิในความเป็นส่วนตัวของคู่ค้า พันธมิตรทางการค้า ซัพพลายเออร์ ผู้เช่า และ/หรือ ผู้ให้เช่าพื้นที่ ผู้จัดหาสินค้า และ/หรือ บริการ และผู้ให้บริการทุกท่าน (รวมเรียกว่า “ท่าน” “คู่ค้า” หรือ “บุคคลภายนอก”) มาโดยตลอด ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้เปิดเผยหรือถูกจัดเก็บโดยบริษัทฯ จากการทำสัญญา การกรอกแบบฟอร์ม การที่ท่านส่งมอบเอกสารต่าง ๆ ที่มีข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบริษัทฯ  หรือการเข้าใช้งานทางออนไลน์ ตลอดจนเมื่อท่านสอบถามข้อมูล ให้ความเห็น หรือคำติชม หรือส่งข้อร้องเรียนมายังบริษัทฯ ซึ่งต่อไปในที่นี้จะเรียกว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล” ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบของเอกสาร ไฟล์งาน เว็บไซต์ www.cpaxtra.comแอปพลิเคชั่นและบริการออนไลน์ของบริษัทฯ ทั้งหมด (ซึ่งต่อไปในที่นี้จะรวมเรียกว่า “เว็บไซต์”)  บริษัทฯ นำข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องไปใช้ เพื่อวัตถุประสงค์ในการทำธุรกรรมต่างๆ ดังที่จะกล่าวต่อไปในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “ประกาศ

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลใด ๆ ก็ตามที่ระบุไปถึงเจ้าของข้อมูลนั้นได้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ตัวอย่างเช่น ชื่อ-สกุล, ที่อยู่, อีเมล, หมายเลขโทรศัพท์, หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน, รายละเอียดการลงทะเบียนเข้าสู่ระบบของท่าน เช่น  username และ password ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้ เมื่อมีการติดต่อกับบริษัทฯ เกี่ยวกับการใช้บริการ (เช่น ชื่อ username ข้อมูลบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ (Social media account) รวมทั้ง Line ID),ข้อมูลธุรกรรมและข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น แต่ทั้งนี้ ไม่รวมถึงข้อมูลของนิติบุคคล

ภายใต้ประกาศฉบับนี้ กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่เราได้ทำการเก็บรวบรวมและประมวลผล ประกอบด้วย:

1) ผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้า หมายถึง บุคคลที่อาจเข้ามาเป็นคู่ค้ากับบริษัทฯ อันรวมไปถึงพันธมิตรทางธุรกิจ, ผู้ขาย, ผู้จัดหาสินค้า และ/หรือ บริการ, เกษตรกร, ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs), คู่สัญญา, ผู้ให้บริการ, ผู้ขาย และผู้เช่าหรือผู้ให้เช่าพื้นที่ในสถานที่หรือร้านสาขาของบริษัทฯ ทั้งในกรณีที่บุคคลดังกล่าวได้แสดงเจตนาจะเข้าทำสัญญา และ/หรือ ลงทะเบียนเป็นคู่ค้าของบริษัทฯ

2) คู่ค้า หมายถึง พันธมิตรทางธุรกิจ, ผู้ขาย, ผู้จัดหาสินค้า และ/หรือ บริการ, เกษตรกร, ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs), คู่สัญญา, ผู้ให้บริการ, ผู้ขาย และผู้เช่าหรือผู้ให้เช่าพื้นที่ในสถานที่หรือร้านสาขาของบริษัทฯ ตลอดจนบุคคลอื่นใดที่เข้าเสนอราคาเพื่อขายสินค้า และ/หรือ บริการแก่บริษัทฯ และผู้ที่ได้ลงทะเบียนเป็นคู่ค้าของบริษัทฯ หรือมีความสัมพันธ์อื่นใดในลักษณะคล้ายคลึงกันกับบริษัทฯ อาทิ  ที่ปรึกษา, ผู้เชี่ยวชาญ, นักวิชาการ, วิทยากร, ผู้เข้าร่วมโครงการธุรกิจ, คู่สัญญา หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

3) ผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้าหรือคู่ค้า หมายถึง บุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้าหรือคู่ค้า เช่น กรรมการ, พนักงาน, ตัวแทน หรือบุคลากรของผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้าหรือคู่ค้าซึ่งเป็นนิติบุคคล และให้หมายความรวมถึงผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้จัดการ, ผู้สั่งซื้อ, ผู้รับสินค้า และผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น

·     ข้อมูลส่วนตัวของท่าน เช่น ชื่อ-สกุล, อาชีพ, หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน, หมายเลขหนังสือเดินทาง, วัน เดือน ปีเกิด, รหัสประจำตัวผู้เสียภาษี (หากมี) เป็นต้น

·       ข้อมูลติดต่อของท่าน เช่น ที่อยู่, ที่อยู่อีเมล, หมายเลขโทรศัพท์, ไอดีผู้ใช้สำหรับไลน์แอปพลิเคชัน (Line ID) และข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อได้ เป็นต้น

·       ข้อมูลบัญชีผู้ใช้ รวมถึงรายละเอียดการลงทะเบียนของท่าน เพื่อเข้าสู่ระบบคู่ค้า หรือระบบงานอื่น ๆ อันคล้ายคลึงกันของบริษัทฯ เช่น  Username, Password และ รหัสคู่ค้า เป็นต้น

·       ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมการซื้อขาย การให้บริการ และ การเช่าพื้นที่ เช่น รหัสคู่ค้า, รหัสผู้เช่า, รายละเอียดของสินค้า หรือบริการที่ต้องการ, รายละเอียดการส่งสินค้าเลขที่บัญชีธนาคาร และจำนวนเงิน เป็นต้น

·     ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการลงทะเบียนเป็นคู่ค้ากับบริษัทฯ หรือในการทำธุรกรรมต่าง ๆ   เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประชาชน, เลขที่ประจำตัวผู้เสียภาษี, สำเนาหนังสือเดินทาง, สำเนาใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล, สำเนาทะเบียนบ้าน, สำเนาใบอนุญาตขับขี่, เลขทะเบียนรถยนต์, ชนิดของรถยนต์, สำเนาโฉนดที่ดิน, สำเนาหนังสือมอบอำนาจ, สำเนาหนังสือรับรองบริษัท, สำเนาบัตรประจำตัวผู้เสียภาษี, ใบแจ้งหนี้, ใบเสร็จรับเงิน, บิลเงินสดหรือใบแทนใบเสร็จรับเงิน, เช็คและต้นขั้วเช็ค, ใบสำคัญจ่าย, สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร, ใบตอบรับการโอนเงิน, บันทึกขออนุมัติลงทะเบียน direct credit, สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือธุรกิจต่าง ๆ เป็นต้น

·       ข้อมูลด้านเทคนิค เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log), หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) และข้อมูลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน เป็นต้น

·       ข้อมูลอื่น ๆ ที่ระบบอาจร้องขอ หรือท่านอาจให้ด้วยตนเองเพื่อลงทะเบียนเข้าสู่ระบบคู่ค้า หรือระบบงานอื่น ๆ อันคล้ายคลึงกันของบริษัทฯ บันทึกเสียงการสนทนา บันทึกวิดีโอการประชุมออนไลน์ผ่าน Application การประชุมต่างๆ เช่น Microsoft Teams, Zoom บันทึกภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวผ่านอุปกรณ์บันทึกวิดีโอ เป็นต้น

ประกาศฉบับนี้ครอบคลุมถึง

    · ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ จัดเก็บรวบรวม

   · วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

   · การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

   · การส่งหรือโอนข้อมูลไปยังต่างประเทศ

   · ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

   · สิทธิของท่าน

   · การปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

   · มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

   · โปรแกรมคุกกี้ (Cookies) และข้อมูลเชิงเทคนิค

   · กรณีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ของบุคคลอื่น

   · การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว

   · การแจ้งเหตุละเมิดและการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล

   · ติดต่อเรา

วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บ
เมื่อท่านลงทะเบียนหรือเข้าทำสัญญาทางการค้ากับบริษัทฯ รวมถึงการดำเนินตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา การลงนามในสัญญา กรอกลงในแบบฟอร์ม ทำแบบสอบถาม หรือยื่นข้อเรียกร้องหรือคำร้องขอใช้สิทธิต่างๆ
  • ข้อมูลระบุตัวตน ตัวอย่างเช่น ชื่อนามสกุล วันเกิด รหัสประจำตัวประชาชน
  • ข้อมูลติดต่อ ตัวอย่างเช่น ที่อยู่การจัดส่งเอกสาร อีเมล และเบอร์โทรศัพท์
เมื่อท่านเข้าสู่ระบบผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ และช่องทางออนไลน์อื่นๆ ของบริษัทฯ
  • ข้อมูลการทำธุรกรรม ตัวอย่างเช่น รายละเอียดข้อมูลทางการค้าและบริการ บัญชีธนาคาร และรายละเอียดสินค้าและบริการอื่นๆ ที่ท่านได้ขายหรือให้บริการแก่บริษัทฯ รวมถึงข้อมูลการเข้าใช้เว็บไซต์และบริการอื่นๆ ของบริษัทฯ
  • ข้อมูลทางเทคนิค ตัวอย่างเช่น ชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน ความสนใจ การตั้งค่า หมายเลขที่ใช้สำหรับระบุตัวตนของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออยู่บนเครือข่าย (IP Address) ข้อมูลการเข้าระบบ
ท่านติดต่อกับบริษัทฯ หรือตัวแทนของบริษัทฯ โดยไม่ผ่านระบบออนไลน์
  • ข้อมูลระบุตัวตน ตัวอย่างเช่น ชื่อนามสกุล วันเกิด รหัสประจำตัวประชาชน
กรณีอื่นๆ ภายใต้ระบบการรักษาความปลอดภัยของบริษัทฯ เช่น ผ่านระบบโทรทัศน์วงจรปิด
  • ภาพถ่ายหรือภาพเคลื่อนไหวที่ถูกบันทึกไว้

บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อท่านให้ความยินยอมในการเก็บ อย่างไรก็ตาม หากท่านเป็นคู่ค้า พันธมิตรทางการค้า และซัพพลายเออร์การบริการ ของบริษัทฯ อยู่แล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) ใช้บังคับ ภายใต้บังคับของกฎหมายบริษัทฯ จะยังคงใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ เคยเก็บรวบรวมไว้ต่อไปเพื่อวัตถุประสงค์เดิมที่ท่านเคยให้ข้อมูลไว้

ทั้งนี้ ในกรณีจำเป็น บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน เช่น ข้อมูลสุขภาพ ศาสนา หมู่เลือด เป็นต้น  โดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อนหรือโดยเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ผ่านเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของบริษัทฯ หรือบุคคลใดๆ ซึ่งมีความเกี่ยวข้อง หรือที่จะกระทำการแทนหรือในนามบริษัทฯ ที่จำเป็นในการให้บริการแก่ท่านและเพื่อการบริหารจัดการเว็บไซต์  ซึ่งรวมถึงการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อการดำเนินการต่างๆ อาจอาศัย (1) ฐานความยินยอม (Consent) (2) ฐานสัญญา (กล่าวคือ เพื่อปฏิบัติตามสัญญาหรือการดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา (Contract)) (3) ฐานหน้าที่ตามกฏหมาย (Legal Obligation) (4) ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate interest) (5) ฐานความจำเป็นเพื่อสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย (6) ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ (7) ฐานความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์บางประการ โดยมีวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้

วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บ
เพื่อรวบรวมรายชื่อ หรือลงทะเบียนผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัทฯ ตลอดจนการดำเนินการตามคำขอต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • ฐานสัญญา: ในกรณีที่ผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้ามีความประสงค์จะเข้าทำสัญญาซื้อขายหรือให้บริการกับบริษัทฯ หรือเป็นการดำเนินการตามความขอของผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน บริษัทฯ จำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อดำเนินการรวบรวมรายชื่อหรือลงทะเบียนบุคคลดังกล่าว
เพื่อดำเนินการวางแผน การรายงาน การคาดการณ์ทางธุรกิจ รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจ และการพัฒนาทางธุรกิจของบริษัทฯ
  • ฐานประโยชน์อันชอบธรรม: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ อาทิ รายงานสั่งซื้อสินค้า/บริการ และเพื่อเก็บประวัติ เป็นต้น
เพื่อจัดซื้อจัดจ้าง และการคัดเลือกคู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
  • ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิ่งจำเป็นในการดำเนินการตามคำขอเข้าเสนอราคาของคู่ค้าที่เสนอราคา หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ก่อนเข้าทำสัญญาซื้อขาย สัญญาให้บริการ สัญญาเช่า หรือสัญญาทางธุรกิจใด ๆ หรือ อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัทฯ
  • ฐานประโยชน์อันชอบธรรม: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจและดำเนินการตามนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัทฯ เช่น พิจารณาและประเมินผลคุณสมบัติและประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของท่าน หรือพนักงานของท่านก่อนเข้าทำสัญญากับบริษัทฯ (เช่น กระบวนการตรวจสอบเบื้องต้น) ในฐานะคู่สัญญา หรือในฐานะที่ท่านเป็นกรรมการ ผุ้แทน ผู้รับมอบอำนาจ หรือผู้ปฏิบัติงานในนามของนิติบุคคล และเพื่อการพิจารณาอนุมัติการทำสัญญาข้อตกลงทางการค้าและ/หรือการบริการ
เพื่อจัดทำและการบริหารจัดการสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับท่านหรือคู่สัญญาใด ๆ
  • ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคู่สัญญาเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของคู่สัญญาดังกล่าว ที่ได้แสดงเจตนาเข้าทำสัญญากับบริษัทฯ
  • ฐานประโยชน์อันชอบธรรม: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคู่สัญญา (หรือของบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือตัวแทนของคู่สัญญา ในกรณีที่คู่สัญญาเป็นนิติบุคคล) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ในการจัดทำและการบริหารจัดการสัญญาของบริษัทฯ เช่น การตรวจสอบยืนยันตัวตนและคุณสมบัติของคู่สัญญา เป็นต้น
เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา (รวมถึงการปฎิบัติหน้าที่ภายใต้สัญญาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อการสร้างบัญชีผู้ใช้และรหัสผ่านสำหรับคู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ หรือผู้ให้บริการในการเข้าสู่เว็บไซต์หรือระบบของบริษัทฯ เพื่อให้การฝึกอบรมที่จำเป็นหรือการประชุม เป็นต้น)
  • ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาซึ่งบริษัทฯ ทำขึ้นกับท่าน หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน รวมถึงการตรวจสอบ และ/หรือประเมินผลงานของท่านตามสัญญาที่ทำขึ้นกับบริษัทฯ ตลอดจนเพื่อรักษาความปลอดภัยระหว่างการปฏิบัติงานตามสัญญา เพื่อประเมินประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และเพื่อการปฏิบัติตามกระบวนการภายในของบริษัทฯ (เช่น การติดต่อ ประสานงาน ทั้งจัดส่งสินค้า คืนสินค้า อุปกรณ์ การจัดทำบัตรเข้าอาคารสถานที่ การจัดการอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นระหว่างการขนส่งสินค้า เป็นต้น) และเพื่อการดำเนินงานทางธุรกรรมทางการเงิน เช่น การชำระเงินค่าสินค้า การคืนเงิน ซึ่งให้บริการท่านทั้งออฟไลน์และระบบออนไลน์ เช่น ผ่านทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชันและช่องทางอื่น ๆ
เพื่อบริหารจัดการและปรับปรุงวิธีการดำเนินงานตามปกติของบริษัทฯ
  • ฐานประโยชน์อันชอบธรรม: ในการปรับปรุงพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ รูปแบบวิธีการสื่อสารกับคู่ค้า และการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ นั้น บริษัทฯ จำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อทำการวิจัยและพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (ซึ่งรวมถึงระบบความปลอดภัยของข้อมูล) และวิธีการดำเนินงานของบริษัทฯ
เพื่อสำรวจความคิดเห็นของ คู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
  • ฐานประโยชน์อันชอบธรรม: บริษัทฯ อาจขอความร่วมมือจากท่านเป็นครั้งคราวให้ตอบแบบสำรวจความคิดเห็น หรือประเมินผลการดำเนินงานโดยบริษัทในกลุ่มฯและบริษัทอื่นใดที่ได้รับมอบหมาย ในกรณีที่ท่านตกลงเข้าร่วมทำแบบสำรวจความคิดเห็นดังกล่าว ถือว่าท่านยินยอมให้เราจัดเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านจะได้ให้ไว้เพิ่มเติม ทั้งนี้ การใช้ข้อมูลดังกล่าวจะเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ระบุในประกาศฉบับนี้หรือวัตถุประสงค์อื่นตามที่เราจะได้แจ้งไว้ในแบบสำรวจความคิดเห็นนั้น ๆ
เพื่อจัดกิจกรรม หรือ แคมเปญเพื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมการขาย และกิจกรรมเพื่อสังคม
  • ฐานสัญญา: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาซึ่งบริษัทฯ ทำขึ้นกับท่าน หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เช่น เพื่อใช้ภาพถ่ายของท่านในการโฆษณาประชาสัมพันธ์กิจกรรมของบริษัทฯ เป็นต้น
  • ฐานประโยชน์อันชอบธรรม: เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขาย กิจกรรมโฆษณาประชาสัมพันธ์ กิจกรรมเพื่อสังคม หรือเข้าร่วมสนุกในแคมเปญต่าง ๆ ที่บริษัทฯ จัดขึ้น รวมทั้งการไลฟ์สดและการบันทึกภาพวิดีโอต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์ข้างต้น ณ ร้านค้าของเรา หรือสถานที่อื่นใด เราอาจใช้รูปถ่าย คลิปวิดีโอ หรือภาพของท่าน เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์กิจกรรมนั้น ๆ ในสื่อออนไลน์ สื่อสิ่งพิมพ์ หรือช่องทางโซเชี่ยลมีเดียต่าง ๆ ของบริษัทฯ ทั้งนี้ เราจะแจ้งให้ท่านได้ทราบก่อนตามวิธีการที่สมควร และเหมาะสมกับสถานการณ์นั้น
เพื่อทำการติดต่อและมีปฏิสัมพันธ์กับท่าน
  • ฐานประโยชน์อันชอบธรรม: บริษัทฯ จำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อติดต่อกับท่านเกี่ยวกับข่าวสารของบริษัทฯ เพื่อชี้แจงข้อมูล หรือให้ความช่วยเหลือตามความเหมาะสม
เพื่อใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
  • ฐานหน้าที่ตามกฎหมายและประโยชน์อันชอบธรรม: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิ่งจำเป็นในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้อง การต่อสู้คดีตามกฎหมายหรือระงับข้อพิพาทระหว่างบริษัทฯ กับท่าน ตัวอย่างเช่น กรณีมีข้อพิพาท หรือการไม่ปฏิบัติตามสัญญาเกิดขึ้น
เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และคำสั่งโดยชอบธรรมของเจ้าพนักงาน
  • ฐานหน้าที่ตามกฎหมายและประโยชน์อันชอบธรรม: ปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมาย เช่น กฎหมายภาษีอากร กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงคำสั่งโดยชอบธรรมของเจ้าพนักงาน เช่น คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อการสืบสวน สอบสวน ตามกระบวนการทางกฎหมายและกฎระเบียบอื่นใด และเพื่อรายงานหรือเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการตามกฎหมาย หรือเมื่อได้รับหมายเรียก หมายอายัดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานราชการ ศาล หรือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นๆ
เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยของบุคคล และทรัพย์สินของบริษัทฯ
  • ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยในทรัพย์สินของบริษัทฯ และป้องการทุจริต การติดตามและสืบค้นการกระทำความผิดเช่น การใช้ภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อป้องกันการสูญหาย หรือเสียหายในทรัพย์สินของบริษัทฯ หรือใช้เพื่อติดตามเอาคืนทรัพย์สิน หรือเรียกให้ชดใช้ค่าเสียหาย ในกรณีที่มีการทำให้ทรัพย์สินของบริษัทฯ สูญหาย หรือเสียหาย เป็นต้น
  • ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ ดูแล ป้องกัน หรือระงับเหตุการณ์ใด ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
เพื่อโอนสิทธิ หน้าที่ และผลประโยชน์ใดๆ ตามสัญญาระหว่างท่านกับบริษัทฯ เช่น การควบรวมกิจการหรือการโอนสัญญา ซึ่งได้กระทำโดยชอบด้วยกฎหมาย
  • ฐานประโยชน์อันชอบธรรม:การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิ่งจำเป็นในกรณีที่มีการควบรวมกิจการหรือการโอนสัญญาใด ๆ เพื่อให้สิทธิ หน้าที่ และข้อผูกพันใด ๆ ของคู่สัญญายังดำเนินต่อไปได้โดยไม่หยุดชะงัก
เพื่อดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็น และเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้น
  • ฐานประโยชน์อันชอบธรรม: การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์ชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นของบริษัทฯ และ/หรือเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้น

ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้างต้นเป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อบริษัทฯ ในการปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้บังคับหรือการปฏิบัติตามสัญญา หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นดังกล่าว บริษัทฯ อาจมีความรับผิดตามกฎหมาย และ/หรือ ไม่สามารถจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้ท่านได้ รวมทั้งอาจไม่สามารถบริหารหรือจัดการสัญญา หรืออำนวยความสะดวกให้กับท่านได้

ในกรณีที่บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือดำเนินการประมวลผลใดๆ ต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้ บริษัทฯ จะแจ้งการแก้ไขเปลี่ยนแปลงไว้ในเว็บไซต์ หรือแจ้งเป็นหนังสือให้ท่านทราบ โดยอาจจะต้องมีการขอความยินยอมจากท่านเพิ่มเติม

ทั้งนี้ บริษัทฯ ไม่มีนโยบายในการจัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลที่มีความอ่อนไหวของท่าน เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และข้อมูลสุขภาพ ในกรณีที่ท่านนำส่งเอกสารใด ๆ ให้กับบริษัทฯ ซึ่งมีการระบุข้อมูลดังกล่าวไว้ อาทิ สำเนาบัตรประชาชนที่ระบุศาสนาและหมู่โลหิต ขอให้ท่านขีดฆ่าข้อมูลนั้นออกเสียก่อนทำการส่งมอบ

บริษัทฯ อาจมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลอื่นที่มีความเกี่ยวข้อง เพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ ดังต่อไปนี้

1. บริษัทย่อย บริษัทในกลุ่ม และบริษัทในเครือ เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจกรรมตามที่ระบุในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

2. ตัวแทน ผู้รับจ้าง/ผู้รับจ้างช่วง และ/หรือผู้ให้บริการสำหรับการดำเนินงานใด ๆ เช่น ผู้ให้บริการขนส่ง ผู้ให้บริการควบคุมคุณภาพ ผู้ให้บริการคลังสินค้า ผู้ให้บริการเก็บและทำลายเอกสาร โรงพิมพ์ ผู้รับจ้างทำกิจกรรมทางการตลาดและสื่อโฆษณา ผู้จัดงานกิจกรรม บริษัทผู้รับจ้างวิเคราะห์ทางการตลาด ผู้รับจ้างพัฒนาและดูแลระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการฝึกอบรม ผู้ตรวจสอบบัญชี ทนายความ ที่ปรึกษากฎหมายและภาษี ที่ปรึกษาใดๆ

3. หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจตามกฎหมาย

4. บริษัทประกัน

5. คู่ค้าทางธุรกิจของบริษัทฯ หรือบุคคลภายนอกอื่น ตามความยินยอมจากท่าน หรือตามข้อกำหนดของสัญญาที่เกี่ยวข้อง หรือตามข้อกำหนดของกฎหมาย แล้วแต่กรณี

6.  ผู้รับโอนสิทธิ หน้าที่ และผลประโยชน์ใด ๆ จากบริษัทฯ รวมถึงผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้รับโอนดังกล่าวให้ดำเนินการแทน เช่น กรณีปรับโครงสร้างองค์กร ควบรวมหรือซื้อกิจการ เป็นต้น

ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกหรือบริษัทในเครือที่อยู่ภายในประเทศ บริษัทฯ จะดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทหรือองค์กรที่ได้รับข้อมูลมีมาตรฐานในการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ เพื่อป้องกันความเสียหายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น และหากการเปิดเผยใดๆ มีความจำเป็นต้องขอความยินยอม ทางบริษัทฯ จะดำเนินการขอความยินยอมก่อนจะมีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว

บริษัทฯ อาจโอนหรือส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ เช่นการส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้บริษัทซึ่งเป็นตัวแทนนำไปประมวลผลต่อ ซึ่งการเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกหรือบริษัทในเครือที่อยู่ต่างประเทศ ในการนี้ บริษัทฯ จะปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลไปยังต่างประเทศ และจะดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าประเทศปลายทาง บริษัทต่างๆ หรือองค์กรที่ได้รับข้อมูลมีมาตรฐานในการคุ้มครองและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอและเทียบเท่ากับการคุ้มครองภายใต้หรือในมาตรฐานเดียวกันกับ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ กล่าวคือ ตลอดระยะเวลาที่ท่านดำเนินธุรกิจร่วมกับทางบริษัทฯ หรือตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือจนกว่าท่านได้แจ้งความประสงค์ให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในองค์กรของบริษัทฯ

ท่านมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รายละเอียด
สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านและอยู่ในความดูแลของบริษัทฯ หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมได้ บริษัทฯ จะจัดส่งสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้ท่านภายใน 30 วันนับแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับคำขอ และ/หรือตามที่กฏหมายกำหนด ทั้งนี้ในบางกรณีบริษัทฯ อาจทำการขอข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อยืนยันตัวตนและสิทธิของท่านอันเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นด้วยวิธีอัตโนมัติ และมีสิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้
สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านเมื่อใดก็ได้ ในกรณีตัวอย่างดังต่อไปนี้
     1) เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง
     2) เพื่อการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือ สถิติ
เว้นแต่เป็นการจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิในการขอให้ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ท่านมีสิทธิในการขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลได้ ในกรณีดังต่อไปนี้
     1) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
     2) เมื่อท่านถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและบริษัทฯ ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยได้ต่อไป
     3) เมื่อท่านคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและบริษัทฯ ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะปฏิเสธได้
     4) เมื่อ การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมายตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการขอให้ระงับใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีดังต่อไปนี้
     1) อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลว่ามีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ หรือไม่
     2) เป็นข้อมูลที่ต้องลบหรือทำลายเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่ท่านขอให้ระงับแทน
     3) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล แต่ท่านยังมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
     4) เมื่อบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการพิสูจน์สิทธิในการปฏิเสธคำขอการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเสียเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่เมื่อการถอนความยินยอมนั้นถูกจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน

ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ก่อนหน้าแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
สิทธิในการขอให้แก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน บริษัทฯ ต้องดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หากบริษัทฯ ปฏิเสธคำขอของท่าน บริษัทฯ จะบันทึกการปฏิเสธดังกล่าวพร้อมด้วยเหตุผลลงในบันทึกรายการ
สิทธิในการร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิร้องเรียนในกรณีที่บริษัทฯ หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือประกาศที่ออกตามพ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

กรณีติดต่อโลตัส:

ท่านสามารถใช้สิทธิอันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลตามรายละเอียดด้านบน โดยกรอกข้อมูลลงในแบบ คำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูล และส่งคำร้องของท่านพร้อมเอกสารแนบมาที่ datasubject.request@lotuss.com หรือในกรณีที่ท่านเป็นผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)สามารถติดต่อที่ sme@lotuss.com

กรณีติดต่อแม็คโคร:

หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการใช้สิทธิต่างๆ ในเรื่องที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน กรุณาส่งคำร้องผ่านเวปไซต์ www.makro.co.th หัวข้อ การขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือ ติดต่อเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ที่สาขา หรือ call center  เบอร์โทร 02-779-9955 ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 8:00-18:00 น.

ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้มีการเปลี่ยนแปลงไป ท่านต้องแจ้งให้บริษัทฯ ทราบ หรือทำการปรับปรุงหรือแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกต้องและทันสมัยตลอดเวลา ทั้งนี้ ท่านเข้าใจและตกลงว่า หากข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้ไม่ถูกต้องอาจส่งผลกระทบต่อการให้บริการของบริษัทฯ และบริษัทฯ ไม่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อความสูญหายหรือเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นกับท่านหรือบุคคลภายนอกอันเป็นผลจากการที่ท่านไม่ได้แก้ไขหรือปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง

บริษัทฯ ขอรับรองว่าข้อมูลที่จัดเก็บทั้งหมดจะถูกจัดเก็บอย่างปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐานในการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด หากท่านมีเหตุให้เชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกละเมิด หรือมีข้อสงสัยประการใดเกี่ยวกับประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ

โปรแกรมคุกกี้ (Cookies) จะถูกส่งไปในเว็บบราวเซอร์ของท่านหรือบนอุปกรณ์ของท่าน เมื่อท่านเข้าชมเว็บไซต์หรือเรียกดูข้อความ โดยโปรแกรมนี้จะเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์และการสั่งซื้อสินค้า รวมถึงข้อมูลทางเทคนิคซึ่ง อาจหมายถึงชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน ความสนใจ การตั้งค่า หมายเลขที่ใช้สำหรับระบุตัวตนของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออยู่บนเครือข่าย (IP Address) ข้อมูลการเข้าระบบ ประเภทบราวเซอร์ และเวอร์ชั่น การตั้งค่าเวลาและที่ตั้ง การเชื่อมต่อและประเภทของบราวเซอร์ที่ใช้เชื่อมต่อ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม และเทคโนโลยีอื่นๆ บนอุปกรณ์ที่ท่านใช้เข้าระบบ

ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยทำให้บริษัทฯสามารถติดต่อและจดจำบราวเซอร์หรืออุปกรณ์ของท่านได้ อีกทั้งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ทั้งนี้ หากท่านไม่ประสงค์จะให้มีการใช้โปรแกรมคุกกี้ ท่านสามารถปฏิเสธการติดตั้งโปรแกรมดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม การปฏิเสธไม่ใช้โปรแกรมคุกกี้นี้อาจส่งผลกระทบต่อท่านในการใช้งานเว็บไซต์หรือบริการออนไลน์ของบริษัทฯ เนื่องจากข้อมูลไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรืออาจทำให้ต้องใช้เวลาในการขอข้อมูลเพิ่มเติม (ถ้ามี)

ทั้งนี้ ท่านสามารถทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมคุกกี้ (Cookies) ได้ที่นโยบายการใช้คุกกี้ (Cookies Policy) ของบริษัทฯ ที่ https://www.cpaxtra.com /cookies-policy.php

เว็บไซต์ของบริษัทฯ อาจมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ของบุคคลอื่น เพื่อวัตถุประสงค์ในการอำนวยความสะดวกในการเข้าชมเว็บไซต์ต่างๆ ดังกล่าวเท่านั้น ซึ่งเว็บไซต์เหล่านี้อาจมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยบริษัทฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีส่วนร่วมรับผิดชอบในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ข้อมูลดังกล่าว หรือในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ที่เป็นของบุคคลอื่น หรือในการจัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์เหล่านี้แต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ ขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบประกาศความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์เหล่านี้อย่างระมัดระวังก่อนที่ท่านจะเข้าใช้บริการในเว็บไซต์ดังกล่าวนั้นๆ ต่อไป

บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือปรับปรุงประกาศความเป็นส่วนตัวได้ตลอดเวลาตามที่เห็นสมควร โดยแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทฯ จะแจ้งการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือปรับปรุงดังกล่าวเอาไว้ในเว็บไซต์ของบริษัทฯ ซึ่งท่านสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา หรือ แจ้งเป็นหนังสือให้ ท่านทราบ

ในกรณีที่มีเหตุละเมิดและการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลเกิดขึ้น บริษัทฯ กำหนดให้ผู้แจ้งเหตุละเมิด ต้องแจ้งไปยังช่องทางต่างๆ ที่บริษัทฯ กำหนดไว้ หรือแจ้งต่อ DPO โดยทันที โดยช่องทางในการแจ้งเหตุละเมิดฯ มีดังนี้

เบอร์โทรศัพท์: 02-067-9700    ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 8:00-18:00 น.

อีเมล:           : DPO@cpaxtra.co.th หรือ DPOThailand@lotuss.com

หากท่านมีความเห็น ข้อเสนอแนะ คำถาม หรือต้องการร้องเรียนในเรื่องที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้ที่

บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)

สถานที่ติดต่อ:       1468 ถนนพัฒนาการ แขวงพัฒนาการ  เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 10250

เบอร์โทรศัพท์:       02-779-9955  ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 8:00-18:00 น.

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

สถานที่ติดต่อ:       1468 ถนนพัฒนาการ แขวงพัฒนาการ  เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 10250

อีเมล:                   DPO@cpaxtra.co.th หรือ DPOThailand@lotuss.com

ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้รับการแก้ไขเพิ่มเติมครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567







ดาวน์โหลด คลิกที่นี่